ในยุคที่อินเทอร์เน็ตมีอิทธิพลต่อวิถีชีวิต เมื่อทุกคนจดจ่อกับโลกอินเทอร์เน็ตทำให้กระแสบนโลกออนไลน์เกิดขึ้นได้รวดเร็ว เกิดเป็นไวรัลที่คนรู้จักโด่งดังเพียงแค่ข้ามคืนมากมาย ทำให้นักการตลาดพยายามนำสินค้าและบริการของตนเองเข้าไปอยู่ในกระแสหรือพยายามเกาะติดเทรนด์ที่ผู้คนสนใจเพื่อให้แบรนด์เป็นที่รู้สึกหรือถูกพูดถึงมากขึ้น ซึ่งนอกจากการดูตามโซเชียลต่าง ๆ แล้ว การใช้ Google Trends ก็ช่วยได้มากเหมือนกัน แต่จะช่วยได้อย่างไรเรามาดูกันเลย
Google Trend
Google Trends เครื่องมือช่วยให้คอนเทนต์ติดเทรนด์
Google Trends คือ เครื่องมือวิเคราะห์ที่ช่วยให้นักการตลาดหา Keyword ที่กำลังเป็นกระแสบนโลกออนไลน์แบบเรียลไทม์ โดยจะแสดงผลในรูปแบบของกราฟหรือรูปภาพที่เข้าใจง่าย ทั้งยังสามารถเลือกดูเทรนด์แบบทั่วโลก เฉพาะประเทศ หรือประเทศอื่น ๆ แบบเจาะจงได้ด้วย ทำให้เราสามารถสร้างคอนเทนต์ที่ตรงกับความสนใจของลูกค้าได้
ประโยชน์ของ Google Trends
- SEO: คุณสามารถค้นหา Keywords ที่ต้องการผ่านเครื่องมือ Google Trends เพื่อค้นว่าคำนั้นมีปริมาณการค้นหามากน้อยเท่าใด สามารถค้นดูว่าคำไหนที่กำลังได้รับความสนใจ ทั้งยังสามารถตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกเพื่อดูว่า Keywords นั้นมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นหรือลดลงหรือไม่ เพื่อรักษาการเติบโตของเว็บไซต์ให้ดีขึ้น
- E-Commerce: สำหรับแบรนด์คุณสามารถตรวจสอบสินค้าหรือบริการ หรือ Keywords ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการ เพื่อที่จะได้นำมาวางแผนกลยุทธ์ในการขายให้เพิ่มมากขึ้น และยังสามารถใช้เปรียบเทียบกับคู่แข่งทางการตลาดได้ด้วย
- Youtube: สำหรับยูทูปเบอร์และครีเอเตอร์ที่ต้องหาไอเดียทำคอนเทนต์ใหม่ ๆ อยู่เสมอ การใช้เครื่องมืออย่าง Google Trends สามารถช่วยคุณได้ เพื่อสร้างคอนเทนต์ที่เป็นกระแสหรือไวรัลโดยสามารถดูคำที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม เพื่อให้วิดีโอเป็นที่รู้จักในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ และกระตุ้นให้คนสนใจเข้าชมวิดีโอของคุณให้มากขึ้นด้วย
Google Ads: การใช้ Google Trends ในการหา Keywords ที่ตรงกับการค้นหาของกลุ่มเป้าหมายนอกจากช่วยให้ประหยัดเงินแล้วยังช่วยให้การซื้อโฆษณามีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยการค้นหาว่าช่วงเวลาใดที่มีคนค้นหา Keywords มากที่สุด ทำให้เรารู้ว่าช่วงเวลาใดที่ควรซื้อ Ads มากที่สุด ทำให้คุณสามารถวางแผนการซื้อโฆษณาได้ดีและแม่นยำยิ่งขึ้น และสุดท้ายยังสามารถดูเทรนด์ความนิยมของสินค้าหรือบริการของแบรนด์ได้ด้วย
วิธีใช้ Google Trends หา Keyword ปัง ๆ
1. ในหน้าแรกของ Google Trends (google.com/trends) จะบอกว่าหัวข้อใดหรือ Keyword ใดที่กำลังมาแรงในขณะนั้น สำหรับใครที่คิดไม่ออกว่าวันนี้จะสร้างคอนเทนต์อะไรดีสามารถดูได้ที่หน้าแรกเลย
2. เมื่อกด Explore เข้าไป Google จะแสดงผลลัพธ์ออกมาเป็นกราฟทำให้เราเห็นเทรนด์ตามช่วงเวลาที่คนค้นหา ซึ่งมีการแบ่งเป็นภูมิภาคต่าง ๆ ด้วย เมื่อเลื่อนลงไปจะมีเนื้อหาอื่น ๆ คือ “Related Topics (กลุ่มหัวข้อที่เกี่ยวข้อง)” และ “Related Queries (กลุ่มคำค้นหาที่เกี่ยวข้อง)” ซึ่งเป็นกลุ่ม Keyword ที่เราสามารถนำไปเป็นไอเดียสร้างคอนเทนต์ได้
3. ในกรณีที่เรามี Keyword ในใจ แต่ไม่รู้ว่าคำนั้นมีคนสนใจหรือไม่ เราสามารถเช็กได้โดยพิมพ์ Keyword ลงในช่องค้นหา เช่น “คาเฟ่” ได้เลย
4. หากเรามีคำที่เกี่ยวข้องที่ต้องการนำไปสร้างคอนเทนต์ แต่ไม่แน่ใจว่าควรใช้ Keyword ไหนในการสร้างคอนเทนต์ดี เราสามารถเพิ่มหัวข้อสำหรับเปรียบเทียบ Keyword ได้โดยคลิก ‘+’ แล้วพิมพ์ Keyword ลงไป เช่น “ร้านกาแฟ” “ร้านเกอรี่” คราวนี้เราจะทราบทันทีว่าคำไหนคนนิยมค้นหามากกว่ากัน
ข้อควรรู้เพิ่มเติม
- ในการเปรียบเทียบนั้นเราสามารถเลือก ‘ประเทศ’ ได้ว่าต้องการดูเทรนด์ของประเทศไหน ถ้ากลุ่มเป้าหมายหลักของเราคือคนไทย อย่าลืมเลือกเป็นประเทศ “ไทย” เพราะจะทำให้การค้นหามีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น
- เราสามารถเลือกช่วงเวลาเปรียบเทียบดูว่า Keyword ทั้ง 3 คำนี้ มีคนสนใจเพิ่มขึ้นหรือลดลงหรือไม่ โดยสามารถเลือกย้อนไปได้นานถึงปี 2004 และดูได้ล่าสุดคือชั่วโมงที่ผ่านมา
- หากแบรนด์ต้องการโฟกัสหมวดหมู่ที่เฉพาะเจาะจง เราก็สามารถเลือกดูหมวดหมู่ที่เหมาะกับแบรนด์ได้ เช่น หมวดหมู่ “อาหารและเครื่องดื่ม”
- สุดท้ายเราสามารถเลือกค้นหาดูว่า Keyword นี้ได้รับความสนใจในแพลตฟอร์มที่เราต้องการนำเสนอหรือไม่ มากน้อยเพียงใด โดยเลือกได้ตั้งแต่เว็บไซต์, รูป, Google new, Google shopping และ YouTube
สำหรับการวิเคราะห์เชิงลึก คุณสามารถดาวน์โหลดข้อมูล Google Trends แต่ละส่วน และรายงานแยกย่อยเป็น CSV นอกจากนี้ ยังสามารถใช้ข้อมูลที่ผ่านมาจาก Google Analytics และเปรียบเทียบกับข้อมูลที่ได้จาก Google Trends เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพเนื้อหาของเว็บไซต์ของคุณให้ตรงกับการค้นหาของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ทั้งยังช่วยให้คุณสามารถสร้างยอดขายหรือกระตุ้นให้กลุ่มลูกค้าเป้าหมายสนใจในสินค้าหรือบริการของคุณในช่วงระยะเวลาอันสั้นได้ดีอีกด้วย
หากเจ้าของธุรกิจต้องการผู้ช่วยในการทำการตลาดออนไลน์ (Online Marketing) สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ Common Sense Consulting เพราะเรามีบริการครบวงจร ทั้งการทำ Website Software Applications & Development, Digital PR and MEDIA ADVERTISING, CONTENT DESIGN & PRODUCTION, DATA Analysis and Social Admin และอื่นๆ อีกมากมาย Common Sense Consulting ยินดีให้บริการทุกคน